ฟิคสั้นมาก ม๊ากมาก มากจริงๆ แต่ชอบ ไม่ต้องคาดหวังซีนต่อไปเพราะมันไม่มี…………..
ไปขอมุกิซังแปลมาจากคลังลับของเค้า 悩める白石さん
ถ้าไม่ได้ฟอลทวิตจะไม่เห็นนะแจร๊ะ ใครอยากอ่านต้นฉบับก็ไปขอฟอลนางก่อนนะ
Can I…?
(Nogizaka46) Shiraishi Mai x Nishino Nanase
ดูสิ กระทั่งตอนนี้…
นานาเสะยืนอยู่ข้างกาย ลูบหลังมือเบา ๆ ฉันด้วยปลายนิ้ว
ฉันรู้ว่านานาเสะชอบสัมผัสคนที่อยู่ใกล้ตัวเอง ทุกวันนี้ก็เคยเห็นภาพเหล่านั้นมาแล้วนับไม่ถ้วน
แต่เธอไม่เคยทำกับฉันแบบนั้นมาก่อนเลยนะ…
แล้วนี่มันหมายความว่าอะไร? ทำไมต้องเป็นฉัน? แกล้งฉันเล่นหรือไง?
หรือก็แค่ทำไปตามอารมณ์ ไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ?
เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาเต็มหัวไม่หยุดหย่อน
ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่านานาเสะคิดอะไรอยู่
แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย
ในตอนที่คิดได้เช่นนั้น ก็เผลอปัดมือของนานาเสะที่กำลังแตะมือฉันอยู่ทิ้งไปเสียแล้ว
‘…บ้าเอ๊ย’
ต่อให้เป็นการเผลอเพราะตกใจ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปฏิเสธนานาเสะแบบนี้
เหงื่อน่าขนลุกผุดวาบกลางสันหลัง
เธออาจจะโกรธฉันก็ได้ อาจจะเสียความรู้สึกก็ได้ …ต้องขอโทษแล้วสิ
“…นานาเสะ”
“…มีอะไรเหรอ? ไมยัง”
“…เอ๊ะ”
“จะเริ่มซ้อมแล้วนะ?”
นานาเสะไม่มีท่าทีสนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงเป็นนิชิโนะ นานาเสะคนเดิมเหมือนอย่างเคย
มันต่างจากที่ฉันคาดไว้ลิบลับเสียจน…เผลอส่งเสียงงี่เง่าออกไปด้วยความอึ้ง
คนที่คิดมากมีแค่ฉันคนเดียวหรอกเหรอ…
และจากนั้น นานาเสะก็ไม่เข้ามาแตะต้องตัวฉันอีกเลย
พร้อมกันกับที่รู้สึกโล่งอก แต่กลับเหลือทิ้งความรู้สึกหงุดหงิด…คล้ายมีบางอย่างยังติดค้างอยู่ในใจ
มองผ่านตา เห็นทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ตัวเองไม่รู้สึกอยากกลับยังไงบอกไม่ถูก ทำแค่เพียงทิ้งตัวลงกลางโซฟา นั่งเหม่อ ไม่แม้กระทั่งจะเปิดไฟให้กับห้องสีขาวที่กลับมาเงียบเสียงอีกครั้ง
“เหนื่อยจัง…”
ในตอนนั้นเอง
พร้อมกันกับเสียงเปิดประตูดังแกร๊ก มีใครบางคนเหยียบย่างเข้ามาในห้อง
ซึ่งก็คือคนที่ทำให้ฉันรู้สึกกลุ้มใจนักหนาคนนั้นนั่นแหละ
“…นา…นาเสะ”
“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
“…อ๊ะ..อื้อ ก็นิดหน่อยน่ะนะ”
“ฮืม”
เป็นคนถามเองแท้ ๆ แต่ดันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไร้ความสนใจโดยสิ้นเชิง ขยับเข้ามาใกล้ทีละก้าว
ฉันเผลอหลุบสายตาลงต่ำเพราะไม่อาจฝืนมองหน้านานาเสะได้
แค่เพียงเสียงหัวใจของตัวเองที่กระหน่ำรัวเร็ว
และเสียงฝีเท้าของนานาเสะที่ใกล้เข้ามากำลังชักใยควบคุมฉัน
“นี่…ไมยัง”
นานาเสะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนย่อตัวลงนั่ง โน้มใบหน้าเข้ามาในขอบเขตสายตาฉันโดยไม่ปริปาก
ในเวลาเดียวกับที่มือของเธอยื่นเข้ามาหา ร่างกายกลับเกร็งขึ้นมาทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ
“…ไม่เป็นไรนะ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วละ”
“เอ๊ะ…”
“ไม่อยากให้ทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“……”
“ขอโทษนะ…”
นานาเสะกล่าวเช่นนั้น ค่อย ๆ ปล่อยมือทาบบนโซฟาคล้ายดิ่งลงตามแรงโน้มถ่วง
ภาพที่เห็นช่างดูเหงาอย่างบอกไม่ถูก…ก่อนจะทันได้รู้ตัว ฉันก็ยื่นแขนไล่ตามมือข้างนั้นไปเสียแล้ว
“…ไมยัง?”
“……”
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าตัวเองส่องสะท้อนอยู่ในแววตาอันงดงามของนานาเสะ
สีหน้าของฉันในนั้นช่างย่ำแย่เกินทน นี่ฉันทำอะไรอยู่นะ ทำไมถึงทำหน้าแบบนี้
ทำไมถึงได้…ทรมานขนาดนี้…
“…นี่ จริง ๆ แล้วอยากให้นานะสัมผัสเหรอ?”
เสี้ยววินาทีนั้น ฉันอาจจะลืมวิธีหายใจไปแล้วก็เป็นได้ ในอกรวดร้าวอย่างสุดบรรยาย
…นานาเสะมองฉันซึ่งพูดอะไรไม่ออกแม้สักคำ ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนปีนขึ้นมานั่งคร่อมตัก
“….นะ…นานาเสะ”
“อะไร?”
“…เดี๋ยวสิ…ทำ…อะไร”
“ถ้าไม่ชอบ จะผลักนานะออกก็ได้นะ ยังไงนานะก็สู้แรงไมยังไม่ได้อยู่แล้วนี่นา”
เป็นไปตามที่นานาเสะว่าทุกประการ แค่ร่างกายบอบบางของนานาเสะ ฉันผลักหนีได้อยู่แล้ว
แต่ร่างกายกลับขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว คล้ายอาการผีอำอย่างไรอย่างนั้น
“นี่…โอเคนะ?”
เธอถามย้ำเช่นนั้นในระยะที่ปลายจมูกของเราแทบสัมผัส
มันอาจจะเป็นความใจดีสุดท้ายในแบบของนานาเสะก็เป็นได้ หากปฏิเสธไป นานาเสะคงยอมถอย
ทว่า…
นานาเสะประชิดเข้ามาใกล้ หาได้สนใจที่ฉันพูดอะไรไม่ออก
มิหนำซ้ำ การที่ฉันหลับตาลงอย่างว่าง่ายเช่นนี้ มันเป็นเพราะปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมดาทั่วไป
หรือเป็นเพราะฉัน…
ริมฝีปากซึ่งทาบซ้อนอย่างเชื่องช้า สัมผัสได้ว่าทั้งจิตใจและร่างกายได้รับการปลดปล่อย
ทั้งตัวผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม รู้สึกสบายใจ…
ทั้งที่กลัดกลุ้มทรมานมากขนาดนี้ แต่คำตอบมันอาจจะง่ายดายเกินคาดก็เป็นได้…
โอบแขนรอบเอวของนานาเสะไปตั้งแต่เมื่อใดก็สุดรู้ จงใจเพิ่มแรงขึ้นอีกนิด
จากนั้นจึงจดจ่อกับสัมผัสเร่าร้อนนั่นอีกหน
The End.
ใส่ความเห็น