เจอเรื่องน่ารักเลยเอาแปลบ้างไรบ้าง กรีี๊ดคนเดียวเลาเหงา…
แปลมาจากเรื่องนิ 深い眠りの世界に君は一人 หนึ่งในคลังแสงกองฟิคของคุณพี่ยูกิโกะ
เยอะจนอยากร้องขอชีวิต แต่ถามว่าอ่านมาหมดยัง…….ก็อ่านหมดแล้ว แม่งเง้ยorz”””
Through The Late Night
(Nogizaka46) Shiraishi Mai x Nishino Nanase
ได้ยินเสียงแผ่วหวิวไหวจากใต้ฟูก ฉันกำลังหลับใหลในนิทราล้ำลึก ไออุ่นห่มคลุมผิวกาย
“นี่…ไมยัง…”
แม้จะเป็นเสียงเบาแสนเบา แต่สื่อส่งมาให้ฉันได้ยิน ปลุกสมองให้ตื่นให้จากการหลับใหล
“เป็นอะไร? นอนไม่หลับเหรอ”
เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย ภาพพร่ามัวปรากฏนานาเสะนั่งคุกเข่า
แตะมือที่ไหล่ของฉัน ภายในห้องยังเป็นสีทึมเทา
“อื้อ…”
มือที่จับชุดนอนของฉันเอาไว้กำแน่นขึ้นเล็กน้อย
อ้อ…นอนไม่หลับนี่เอง
นานาเสะเป็นโรคนอนไม่หลับ
ไม่เชิงว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกหรอก เห็นว่าเกิดจากอาการเครียด
สาเหตุอาจเป็นเพราะงานยุ่งเกินไปก็เป็นได้
ฉันกับนานาเสะเริ่มคบกันตั้งแต่สามเดือนก่อน
และนานาเสะเป็นโรคนอนไม่หลับมาตั้งแต่ห้าเดือนก่อน
ฉันเพิ่งมารู้ว่านานาเสะเป็นโรคนอนไม่หลับเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ที่ผ่านมา นานาเสะพยายามสู้กับโรคนี้เพียงลำพังโดยไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล
การนอนไม่หลับเป็นอะไรที่ทรมานมาก ถ้าเป็นไปได้ หากมีเวลาฉันก็จะไปค้างที่บ้านของนานาเสะ
หรือไม่ก็ให้นานาเสะมาค้างที่บ้านฉันเพื่อที่เราจะได้นอนด้วยกัน
ฉันคิดว่าถ้าเรานอนด้วยกัน เจ้าตัวน่าจะนอนหลับได้อย่างสบายใจมากกว่านอนคนเดียว
แต่นานาเสะก็ยังหลับยาก บางทีก็ตื่นขึ้นมากลางดึก หรือไม่ก็ลืมตาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่…
คืนนี้พวกเรานอนด้วยกัน ฉันกอดนานาเสะไว้เพื่อกล่อมนอน ครั้งนี้นานาเสะหลับง่ายกว่าปกติ
ก็เลยวางใจว่าวันนี้คงไม่เป็นไรแล้ว แต่สุดท้ายก็ตื่นขึ้นมาจนได้
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวดื่มอะไรอุ่นๆแล้วรอให้ง่วงแล้วกันเนอะ”
ฉันเช็ดน้ำตาให้นานาเสะด้วยปลายนิ้ว ก้าวลงจากเตียงก่อนเปิดโคมไฟดวงเล็ก
นี่ถ้าอยู่คนเดียวคงเหงาน่าดู…
ปกตินานาเสะไม่กล้าปลุกฉันเพราะเห็นว่าฉันกำลังนอนหลับอยู่
เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องคิดมากเลยแท้ๆ
ถ้าเพื่อนานาเสะแล้ว ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ฉันก็ตื่นไหว
จะอยู่เป็นเพื่อนด้วยจนกว่านานาเสะจะหลับเลย
ฉันไม่ต้องการคำว่า ‘ขอโทษ’ หรอกนะ
ห้องนอนสว่างด้วยโคมไฟดวงเล็กข้างเตียง
สว่างจ้าจนต้องหยีตา จริง ๆ ก็ควรเป็นอย่างนั้นเพราะฉันเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้เองนี่นา
ท่ามกลางทัศนวิสัยที่แคบลง มองเห็นนานาเสะกำลังร้องไห้กระซิก ๆ ปลายนิ้วเรียวบางเช็ดน้ำตาป้อยๆ
นานาเสะที่ฉันเห็นดูราวกับลูกแมวน้อยกำลังหวาดกลัวเงาใหญ่ยักษ์ดำมืด
“นานาเสะ ไม่เป็นไรนะ”
ก่อนจะทันได้รู้ตัว ฉันโอบแผ่นหลังเล็กบางที่กำลังสะท้านสั่นของนานาเสะไว้แน่นในอ้อมแขน
เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนอันอบอุ่นจากนานานเสะ ฉันจึงกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
นานาเสะสะดุ้งเฮือกหนึ่งในอ้อมแขนของฉัน แต่แล้วก็เอนกายพิงฉันในทันใด อาจเพราะรู้สึกวางใจแล้ว
อดยิ้มไม่ได้กับท่าทางออดอ้อนที่ไม่รู้จะบรรยายยังไง
น้ำตาบนแก้มของนานาเสะเหือดแห้งไปเมื่อใดก็สุดรู้
เวลาที่นานาเสะตื่น ฉันจะปลอบนานาเสะแบบนี้ ปลอบให้สบายใจแล้วก็รอจนว่านานาเสะจะง่วง
ทั้งเมื่อวานและเมื่อวานซืน ในห้องที่ฉาบฉายด้วยโคมไฟดวงเล็กข้างเตียง ฉันแค่นอนเล่นกับนานาเสะเฉยๆ
การถูกนานาเสะปลุกหาใช่เรื่องลำบากเลยสักนิด
ฉันดีใจด้วยซ้ำที่นานาเสะพึ่งพาฉัน
ทั้งที่อยากให้พึ่งกันมากกว่านี้
อยากให้อ้อนกันมากว่านี้
เอาความเครียดของนานาเสะมาลงที่ฉันทั้งหมดเลยยิ่งดี
แต่หากพูดออกไปก็ดีแต่จะทำให้นานาเสะลำบากใจเท่านั้นเอง
ฉันก็เลยเลือกที่แสดงออกผ่านการกระทำว่า ฉันจะโอบรับนานาเสะไว้เสมอ…ไม่ว่าเมื่อไร
ฉันจะรออย่างเงียบเชียบให้นานาเสะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา
“อยากดื่มอะไรมั้ย? ชาฝรั่งมีคาเฟอีน เดี๋ยวยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่…เอาโกโก้มั้ย? หรือเอานมร้อน?”
สมัยเด็ก ๆ เวลาที่ฉันนอนไม่หลับ แม่จะชงเครื่องดื่มอุ่น ๆ ให้เสมอ
ยังไงการดื่มอะไรอุ่น ๆ ให้ผ่อนคลายก็ดีที่สุดแล้ว
“งั้น…เอาโกโก้…”
“โอเค”
เมื่อผละออกเพื่อจะไปชงโกโก้ให้นานาเสะกับตัวเอง ก็เห็นนานาเสะจ้องฉันด้วยแววตาคล้ายโหยหา
ต้องพยายามลากตัวเองไปที่ครัวแม้อยากลงไปดิ้นที่พื้นก็ตามที
ฉันไม่เปิดไฟเพื่อที่จะไม่ให้เป็นการรบกวนการนอนของนานาเสะ เปิดตู้โดยอาศัยแสงสลัวจากห้องนอน
หยิบโกโก้ที่ซื้อมาเพื่อนานาเสะโดยเฉพาะ จากนั้นจึงต้มน้ำร้อนก่อนชง
นานาเสะแอบโผล่หน้าออกมาจากห้อง
ทำตาใสปิ๊ง รอฉันอย่างตื่นเต้น
ดูท่าคืนนี้ยังอีกยาวไกล
เห็นแววตาของนานาเสะปราศจากความง่วงงุนแล้ว ฉันก็เข้าใจเช่นนั้น
แต่ฉันไม่เคยโกรธแม้แต่นิดเดียวที่เวลานอนของตัวเองต้องลดน้อยลง
นึกดีใจเสียอีกที่ได้มีเวลาอยู่กับนานาเสะมากขึ้น
กลางดึกซึ่งทั้งเมืองกำลังหลับใหล
หากค่ำคืนนี้ของพวกเราเพิ่งเริ่มต้น
.
.
.
“นี่ นานาเสะ งานสนุกมั้ย?”
ฉันกับนานาเสะนั่งเคียงไหล่กันบนเตียง จิบโกโก้พลางเอ่ยถาม
สงสัยอยู่ว่าความเครียดของนานาเสะเป็นเพราะเรื่องงานหรือเปล่านะ
แต่ก็นะ ต่อให้รู้สาเหตุของความเครียด ก็ใช่ว่าฉันจะทำอะไรได้
“อื้อ ถึงจะเหนื่อยก็เถอะ”
“เหรอ งั้นก็ดีแล้ว”
ดูเหมือนว่าสาเหตุของความเครียดจะไม่ใช่เรื่องงาน
ไม่สิ ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว บางทีเจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ก็ได้…
ไม่แน่ว่างานยุ่งเกินไปจนเกิดความเครียดเพราะชีวิตไม่เป็นระเบียบ…
“ไมยัง?”
สมองของฉันกำลังหมุนติ้ว ๆ เพื่อพยายามคลี่คลายปัญหาที่อาจไม่มีวันพบคำตอบ
แต่แล้วนานาเสะก็เข้ามาหยุดฉัน
เจ้าตัวคงเห็นว่าฉันถือแก้วโกโก้แล้วนั่งเหม่อจนเกือบทำโกโก้หกละมั้ง
“โทษที ไม่มีอะไรหรอก”
ทำให้นานาเสะเป็นห่วงไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมาเล่า
นานาเสะจ้องมองฉันอย่างนึกเป็นห่วง ไม่สนใจตัวเองด้วยซ้ำ
ฉันยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอสองครั้งเพื่อบอกว่าไม่เป็นไรหรอก
พริบตานั้น ศีรษะเล็ก ๆ ขยับส่ายไปมาอย่างชอบใจ ใบหน้าน่ารักยิ้มกว้าง
ฉันเผลอยิ้มตามโดยไม่ทันรู้สึก
นานาเสะนี่น่ารักจัง
เด็กคนนี้ต้องทำให้ฉันคิดแบบนี้อีกกี่ครั้งถึงจะพอใจนะ
แต่นานาเสะคงทำไปโดยไม่รู้ตัวนั่นแหละ จากนี้ก็คงทำให้ฉันตกหลุมรักซ้ำ ๆ ตลอดไป
ค่ำคืนที่นานาเสะตื่น ถือเป็นคืนพิเศษ
ปกตินานาเสะมักขี้อาย หายากนักที่จะยอมอ้อน หรือต่อให้อ้อนกันก็แค่หน้าแดงเท่านั้นเอง
แต่ยามค่ำคืน นานาเสะจะยิ้มดีใจ
เมื่อสอดแขนโอบกอดเรือนร่างบอบบาง นานาเสะก็จะอยู่นิ่งในอ้อมกอดของฉันโดยไม่ผละจากไปไหน
หากจุมพิต นานาเสะก็สนองตอบ
เป็นช่วงเวลาแสนพิเศษซึ่งได้เห็นนานาเสะในยามที่ต่างออกไป
อาจไม่ดีต่อนานาเสะเลย แต่ฉันเผลอคิดทุกทีว่าไม่อยากให้ช่วงเวลาเช่นนี้จบลง
มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขสำหรับฉันขนาดนั้นเชียวนะ…
“เฮะเฮะ ไม~ยัง”
เป็นช่วงเวลาแสนสุขสำหรับนานาเสะด้วยเช่นกัน
ท่ามกลางแสงไฟละมุนตาจากโคมไฟดวงเล็ก ไออุ่นระหว่างกันเชื่อมโยงฉันกับนานาเสะ
เวลาคล้อยผ่านอย่างเชื่องช้าและสงบนิ่ง ลมหายใจลึกไหลรินผสานกลิ่นโกโก้
ไหล่ของนานาเสะเบียดชิด ศีรษะของนานาเสะเอนพิงฉันด้วยความสบายใจอย่างไร้กังขา
ฉันลูบศีรษะเล็ก ๆ นั้นเพียงแผ่วเบา
ไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบลง
อยากให้นานาเสะหลับสนิทเพื่อพักฟื้นแรงกาย
ระหว่างความรู้สึกสองฟากฝั่ง สิ่งที่ผูกมัดฉันไว้คือตัวตนของนานาเสะ
ฉันเลือกอย่างหลัง จากนั้นจึงลูบศีรษะเธอ
“ไมยัง?”
“หือ?”
ถ้อยคำอ่อนโยนแสนละมุนของนานาเสะสั่นไหวหัวใจฉัน
คืองี้นะ….นานาเสะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ฟังอย่างสนุกสนาน ฉันพยักหน้าตามไม่รู้กี่ครั้ง
แค่มีนานาเสะอยู่เคียงข้าง แค่นานาเสะยิ้มให้ แค่นานาเสะสัมผัสฉัน…ฉันก็ดีใจและมีความสุขเป็นที่สุดแล้ว
บางที ความรู้สึกนี้คงเป็นความรัก
ทุกครั้งที่ได้คุยกับนานาเสะ ทุกครั้งที่ได้สัมผัสนานาเสะ
ฉันคิดทุกครั้งว่าฉันรักนานาเสะจริง ๆ นั่นแหละ
“นานาเสะ รักนะ”
พอได้พูดออกไปจากปาก นานาเสะก็หน้าแดงระเรื่อ
ท่าทางเช่นนี้ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจับใจ…
เวลาไม่มีวันหยุดเดิน
ราตีกาลต้องสว่างขึ้นในที่สุด
ช่วงเวลาแสนสุขเช่นนี้มีวันจบสิ้น
เมื่อดื่มโกโก้เสร็จ เห็นนานาเสะเริ่มตาปรือ คงเพราะเริ่มง่วงนอนแล้ว
ฉันจึงให้นานาเสะนอนลงบนเตียงแม้ใจจะนึกเสียดาย
วางใจเปลาะหนึ่งเมื่อเห็นนานาเสะนอนห่มผ้าเรียบร้อยโดยไม่งอแง ไม่แสดงท่าทางกังวลให้เห็น
ภายใต้ฟูกนอน ฉันกอดนานาเสะแน่นเพื่อบอกว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หลับ
ร่างกายของนานาเสะร้อนกว่าปกติ
ฉันรู้สึกว่านานาเสะคงใกล้หลับเต็มที แก้มของนานาเสะอยู่ชิดใกล้…
จุมพิตลงไปแผ่วเบา
ถ้าหลับสนิทได้ถึงเช้าก็คงดี
“ฝันดีนะ”
นานาเสะซึ่งนอนหลับตาท่าทางสบายใจอยู่ในอ้อมกอดของฉันอาจไม่ได้ยินถ้อยคำนี้ก็เป็นได้…
The End.
2018-12-23 at 9:35 pm
แปลดีมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วยิ้มตามด้วยเลย ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะะะ
ถูกใจถูกใจ